วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2558
เมื่อเด็กย่างเข้าสู่วัยสามขวบ เด็กจะเรียนรู้กระบวนการที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเขา และจะทำให้เด็กเรียนรู้แนวทางการปฏิบัติตัวในสังคมที่ถูกต้อง นั่นคือการปรับตัวให้บุคคลอื่นยอมรับ เพื่ออยู่ร่วมกับบุคคลรอบตัวได้ ซึ่งการเรียนรู้นี้เป็นกระบวนการปรับตัวทางสังคม เด็กเรียนรู้ที่จะร่วมมือกับผู้อื่นในลักษณะกลุ่ม รู้จักการเป็นสมาชิกของกลุ่ม รู้จักปฏิเสธ การรับ การสื่อสาร หรือการใช้ภาษา ซึ่งส่วนมากเด็กจะเรียนรู้ผ่านการเล่น การเล่นและการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะลดตนเองจากการเป็นศูนย์กลางไปสู่การปฏิบัติที่ยอมรับคนอื่นมากขึ้น แต่การมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นยังอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ เราจึงมักจะเห็นว่าเด็กมีพฤติกรรมการแสดงอารมณ์ดีสลับอารมณ์ไม่ดีอยู่เช่นนั้น การอบรมเลี้ยงดูเด็กด้วยความเข้าใจ ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีและแนะนำสั่งสอนเด็กด้วยความอ่อนโยน ชี้แนะระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม การจัดกิจกรรมกลุ่ม การชวนเล่นแบบมีข้อตกลง การที่ผู้ปกครองได้ปล่อยให้เด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนก็จะส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กมากขึ้นนอกเหนือจากการอยู่กับผู้ปกครอง เขาก็จะพบว่าการอยู่ร่วมกับเพื่อนก็จะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางสังคมที่ดี รู้จักการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การแบ่งปัน จึงแม้จะเวลาสั้นๆแต่เชื่อว่าการย้ำคิดย้ำทำบ่อยๆเด็กกํจัสามารถปรับพฤติกรรมตนเองได้ในที่สุด
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันที่ 24-26 มิถุนายน พ.ศ.2558
การอบรม ณ สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เรื่องมาตรฐานการอบรมเลี้ยงดูเด็กในศูนย์เด็กเล็ก มาก่อนนั่งหลัง มาช้านั่งหน้าซึ่งก็ยังเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ได้นั่งหน้าขยับตัวยากเลยเพราะอยู่หน้าวิทยากรเลย ผู้เข้าอบรมมีจำนวนเยอะไม่น้อยเลยทีเดียว โชคดีหน่อยที่มีเพื่อนร่วมงานไปด้วยไม่งั๊นคงจะเงียบเหงาน่าดู บรรยากาศภาคเช้าเป็นไปด้วยความน่านอนมากแอร์เย็นเฉียบและเสียงเนิบๆของงคุณหมอคนสวย สารภาพว่าง่วงมาก แต่ก็ไดความรู้เพิ่มเติมขึ้น เพราะเป็นเรื่องเดิมๆที่เคยอบรมไปบ้างแล้ว ส่วนในภาคบ่ายก็ดูเหมือนว่าทุกคนคงอยากกลับบ้านเร็ววิทยากรก็เลยกระชับเวลาให้เร็วขึ้น พอรับใบประกาศเสร็จห้องประชุมที่มีคนเยอะๆก็ค่อยๆหายไปทีละคนสองคนทั้งที่ประธานยังไม่ได้ปิดการอบรม จริงอยู่ว่าทุกคนรีบแต่ก็น่าจะให้เกียรติประธานที่มาปิดการอบรม นี่ล่ะนะ
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2558
วันหนึ่งไอน์สไตน์ถามนักเรียนในห้องเรียนว่า
“มีคนซ่อมปล่องไฟสองคน กำลังซ่อมปล่องไฟเก่าพอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ ปรากฏว่าคนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนหนึ่งตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่า
ขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน”
นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า
“ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ”
ไอน์สไตน์พูดว่า “งั้นหรือ?” ลองคิดดูให้ดีนะ
คนที่ตัวสะอาดเห็นอีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน
เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆ เลย
ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่า
ตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน
ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่
นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“อ๋อ! ผมรู้แล้ว พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนตัวสกปรก
ก็นึกว่าตัวเองตัวสกปรกแน่ แต่คนที่ตัวสกปรกเห็นอีกคนตัวสะอาด
ก็คิดว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย ถูกไหมครับ”
ไอน์สไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับคำนี้
ไอน์สไตน์จึงค่อยๆพูดขึ้น อย่างมีหลักการและเหตุผล
“คำตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งสะอาด อีกคนหนึ่งจะสกปรก
เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนำจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะ
และหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้...”
“มีคนซ่อมปล่องไฟสองคน กำลังซ่อมปล่องไฟเก่าพอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ ปรากฏว่าคนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนหนึ่งตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่า
ขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน”
นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า
“ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ”
ไอน์สไตน์พูดว่า “งั้นหรือ?” ลองคิดดูให้ดีนะ
คนที่ตัวสะอาดเห็นอีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควัน
เขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
ตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆ เลย
ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่า
ตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน
ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่
นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“อ๋อ! ผมรู้แล้ว พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนตัวสกปรก
ก็นึกว่าตัวเองตัวสกปรกแน่ แต่คนที่ตัวสกปรกเห็นอีกคนตัวสะอาด
ก็คิดว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย ถูกไหมครับ”
ไอน์สไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับคำนี้
ไอน์สไตน์จึงค่อยๆพูดขึ้น อย่างมีหลักการและเหตุผล
“คำตอบนี้ก็ผิด ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งสะอาด อีกคนหนึ่งจะสกปรก
เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนำจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะ
และหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้...”
“จงออกจากพันธนาการของความเคยชิน
หลบเลี่ยงจากกับดักทางความคิด
หลีกหนีจากสิ่งที่ทำให้เราหลงจากความถูกต้อง
แล้วคุณจะพบกับสิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริง
ขอบคุณไอน์สไตน์ ที่ให้ข้อคิดดีๆวันนี้
หลบเลี่ยงจากกับดักทางความคิด
หลีกหนีจากสิ่งที่ทำให้เราหลงจากความถูกต้อง
แล้วคุณจะพบกับสิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริง
ขอบคุณไอน์สไตน์ ที่ให้ข้อคิดดีๆวันนี้
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558
“ระเบียบวินัย” นั้นสำคัญต่อเด็กมาก เด็กจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ได้นั้นต้องมาจากพื้นฐานทางวินัยที่ดี เพราะจะทำให้เด็กเข้าใจความสำคัญของการควบคุมตนเองจากอารมณ์โกรธของตัวเองได้ สอนให้เด็กเป็นคนมีเหตุผล มีกระบวนการตัดสินใจที่ดี รู้จักเคารพกฎกติกาที่จะทำให้ชีวิตปลอดภัย เด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยขาดการฝึกวินัย หากไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไข จะเติบโตด้วยความไม่มั่นใจและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าสิ่งใดควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำ จะมีการตัดสินใจที่ช้า มีระดับความอดทนที่ต่ำกว่าคนทั่วไป เรียกได้ว่า ไม่มีภูมิต้านทานทางด้านอารมณ์ ซึ่งจะส่งผลให้มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่อ ไป ดังนั้นการสอนเด็กให้มีระเบียบวินัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กมาก เพราะฉะนั้นพ่อแม่และครูจำเป็นต้องลงทุนปูพื้นฐานทางวินัยที่ดีให้เด็กวันนี้ เพื่อให้เด็กมีภูมิต้านทานทาง ด้านอารมณ์ และเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต มิใช่ปัดความรับผิดชอบโทษกันไปมาว่าเป็นความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง
วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2558
จากฝนตกเมื่อคืน เช้านี้จึงปกคลุมไปด้วยไอหมอกยามเช้าของฤดูฝน บรรยากาศที่น่าซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆแต่ด้วยหน้าที่การงานและเด็กๆจึงต้องข่มใจสลัดผ้าห่มอันหนานุ่มนั้นออกไปทำงาน เราเดินทางไปถึงศูนย์ฯราวๆ07.00น.มีเด็กคนนึงผู้ปกครองมาส่งตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและแป้งทาซะหน้าขาว ทำไมมาแต่เช้าเลยละหนู พ่อผมรีบไปทำงานครับ จริงสินะคนเราเกิดมาแล้วต้องมีการทำงานหรือต้องหางานทำ โดยเหตุผลของการหางานทำหรือการทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของคนเราบางอย่าง เช่น บางคนต้องการเงินเดือนเพื่อเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว บางคนต้องการได้ชื่อเสียงเนื่องมาจากการทำงาน บางคนทำงานก็เพื่อเป็นที่ยอมรับในสังคม บางคนทำงานเพื่อความร่ำรวยเงินทอง ฯลฯ ( ซึ่งเหตุผลของแต่ละคนที่ทำงานมีความแตกต่างกัน)นี่ละนะคนเรา
"งานสร้างสุข"
"งานสร้างสุข"
วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วันแรกของสัปดาห์เหมือนทุกอย่างจะลงตัวมากขึ้น เด็กมีงอแงกับผู้ปกครองบ้าง แต่เมื่อผู้ปกครองกลับไปแล้วก็เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน ช่วงสายๆในวันเดียวกันมีผู้ปกครองคนนึงซึ่งพึ่งจะพาลูกมาสมัครเรียนในวันพุธที่แล้ว บอกว่าลูกไม่อยากมาโรงเรียน ตนก็คงไม่เอาลูกมาโรงเรียนลูกบอกว่ามาโรงเรียนแล้วเพื่อนแกล้ง ครูได้ชี้แจงว่าเด็กเขาเล่นด้วยกันก็ต้องมีบ้าง แล้วเด็กเองก็ยังไม่สนิทกับใครถ้าได้ใช้เวลาเล่นทำกิจกรรมกับเพื่อนก็น่าจะปรับตัวเข้าหากันได้ซึ่งเป็นธรรมดากับเด็กที่เพิ่งเข้าเรียนใหม่ แต่ผู้ปกครองก็ยังยืนยันว่าจะไม่เอาลูกมา และนั่นก็เป็นเสียงสะท้อนในใจของตัวเราเองว่าจริงๆแล้วเด็กหรือผู้ปกครองกันแน่ หรือตัวครูเองไม่มีความสามารถพอในการอบรมเลี้ยงดูลูกของเขาที่เพิ่งมาได้ 2 วัน เราคิดว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลาไม่ใช่แค่วันสองวันก็ตัดสินทุกอย่างได้แล้ว แต่ยังไงเสียแล้วเราจะต้องทำหน้าทึ่ของเราให้ดีที่สุด เพราะการเก็บเอาเรื่องราวที่ผ่านไปแล้วมาขบคิดก็มีแต่จะบั่นทอนจิตใจ สู้หันหน้ามาสู้มาแก้ปัญหาต่อไปดีกว่า (หนึ่งบททดสอบจิตใจ)
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2558
"เสาร์อาทิตย์ ฉันคิดถึงเธอ ฉันนอนละเมอ หัวใจไหวหวั่น จากกันแล้ว เมื่อไหร่จะพบกัน พอถึงวันจันทร์เราก็พบกันใหม่"เป็นเพลงง่ายๆที่สอนเด็กๆร้องในวันนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายให้จดจำ ให้คิดแก้ปัญหาตลอด ฉันถือว่าเป็นข้อดีนะ ที่ได้ใช้ความคิดใช้ปัญญาหาคำตอบและแก้ปัญหารวมถึงพยายามเข้าใจว่าเราทำงานกับบุคคลหลายฝ่ายในองค์กร การใช้ชีวิตเหมือนนาฬิกา ทำให้เรามีวินัยในตนเองมากขึ้น รู้ว่าเวลาไหนทำอะไร ร่างกายคนเราก็เช่นกันไม่ได้ทำจากเครื่องจักร อาการเจ็บป่วยก็ย่อมมีบ้างเป็นธรรมดา การใช้เสียงสู้กับเด็กจำนวนไม่น้อยทำให้มีอาการเจ็บคอให้บ้างแล้ว ท้ายสุดนี้ร่างกายก็ต้องการพักผ่อน เพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด วันนี้ยาจึงเป็นสิ่งจำเป็น ครูจะป่วยไม่ได้ เด็กๆรออยู่ ไหนจะไปเรียนอีก ดังนั้นพักผ่อนก่อนดีกว่า "ราตรีสวัสดิ์"
วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2558
หลายคนได้ให้คำนิยามมากมายที่เกี่ยวกับคำว่า ครู บางคนเปรียบครูเป็นเหมือนกับแสงเทียน ที่คอยส่องแสงสว่างไปยังเส้นทางที่ดี บางคนอาจจะเปรียบครูเป็นเหมือนกับเรือลำหนึ่ง ที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางข้างหน้า พิธีสำคัญสำหรับเด็กๆวันนี้ก็คือ พิธีไหว้ครู เด็กๆตื่นเต้นตั้งแต่เช้าต่างเอากรวยดอกไม้ ธูปเทียนมาอวดกัน กว่าจะได้เข้าหอประชุมก็ราว09.00น.ครูให้เด็กๆเข้าแถวให้เป็นระเบียบเมื่อได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น จนกระทั่งเริ่มพิธี เด็กที่รอตั้งแต่เช้าก็เริ่มจะยุกยิกซึ่งเป็นธรรมดาของเด็กวัยนี้ในการให้ความสนใจในกิจกรรมช่วงสั้นๆดอกไม้ที่เตรียมมาไหว้ครูก็เริ่มจะหลุด เด็กชายคนนึงเขาพยายามจะจัดการกับดอกไม่ตัวเองให้เหมือนเดิม แต่ก็ทำไม่ได้สักที ครูสังเกตเห็นแล้วแต่ก็ยังเฝ้าดูว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป เด็กชายหันไปหันมาและในที่สุด "ครูครับดอกไม้หลุดแล้ว"ครูนั่งลงข้างจับดอกไม้ช่อเล็กมัดรวมกับธูปเทียนและส่งให้ เด็กชายตัวน้อยรีบรับและยิ้มดีใจที่ดอกไม้ตัวเองเหมือนเดิมแล้ว อย่างน้อยวัยนี้จะไม่รู้ความหมายลึกซึ้งในวันไหว้ครู แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาก็ได้เรียนรู้ว่าดอกไม้ที่เตรียมมาเขาจะเอามาใหม่ใครไหว้ใคร ดอกไม้ช่อเล็กถูกส่งกลับมาที่ครูอีกครั้ง สองมือน้อยก้มกราบลงพร้อมกับรอยยิ้มแฉ่ง นั่นเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ความปลื้มปลิ่มในลูกศิษย์ตัวน้อยทุกคนด้วยความรักและเอ็นดูคงจะอยู่ในหัวใจครูทุกคนอย่างแน่นอน
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2558
วันนี้เด็กๆร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆและครูได้อย่างสนุกสนาน ครูก็พลอยใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเสียงร้องไห้ก็คลี่คลายลง กลายเป็นเสียงหัวเราะเสียงใส สนใจเรื่องที่ครูเล่า ท่องคำคล้อง แสดงท่าทางตามครู เรียนรู้กติกาการอยู่ร่วมกัน รวมถึงการหยิบจับของใช้ส่วนตัวของตนเองได้ และกิจกรรมที่เด็กๆชื่นชอบ ก็มีกิจกรรมที่ได้ขีดเขียนระบายสี การต่อเติมเลโก้ของเล่นตามจินตนาการ ต่อเป็นรูปสัตว์ เรือ ดาบ แต่ที่ถูกใจก็น่าจะเป็นการเล่นทราย สังเกตจากเมื่อครูเป่านกหวีดหมดเวลาทำกิจกรรมในห้อง เข้าแถวเตรียมไปเล่นเครื่องเล่นสนามได้ เด็กๆจะร้องเสียงเฮด้วยความดีใจพร้อมกับไปหยิบอุปกรณ์สำหรับเล่นทรายออกมารอยืนรอสัญญาณจากครูให้เดินแถวออกไปเล่น ความสุขเล็กๆที่ได้ตัก ได้ขุด ได้เท ได้ก่อต่อเติม ครูเฝ้าสังเกตพฤติกรรมจาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กที่ไม่แบ่งปันของให้เพื่อนดูเหมือนว่าวันนี้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้นนั่นคงเป็นเพราะการทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันได้ระยะหนึ่งแล้ว การอยู่ร่วมกัน การได้แบ่งปันของเล่นกัน แม้เด็กๆจะขัดใจกันบ้างเมื่อเกิดการแย่งกันดึงทึ้งบ้าง แต่เมื่อครูคอยบอกว่าให้แบ่งปันกันเล่น หรือนับ1-10แล้วก็เปลี่ยนกันเล่น คนไหนได้ก่อนเล่นจนเพื่อนนับถึง10ก็เปลี่ยนเพื่อนเล่น เด็กๆเข้าใจและทำตามที่ครูบอกรอจนกระทั่งนับถึง10 แม้การเล่นวันนี้อาจจะดูเลอะเทอะไปบ้าง เนื่องจากทรายที่เล่นเปียกน้ำด้วยเพราะฝนตกใส่เมื่อคืนวานแต่สำหรับเด็กๆแล้ว บอกได้เลยว่าพวกเขามีความสุขและเพลิดเพลินตามจินตนาการในการเล่น อีกทั้งยังมีสมาธิด้วย ถึงเสื้อขาวจะเลอะเทอะแต่ก็เลอะด้วยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ งานหนักน่าจะตกกับผู้ปกครองซักผ้าให้ลูกรักวัยซนล่ะงานนี้ "การเรียนรู้ผ่านการเล่น"
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2558
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2558
- วันนี้เด็กมาโรงเรียนน้อยลง เพราะว่าหลายคนป่วยไม่สบาย ซึ่งครูก็ได้แนะนำกับผู้ปกครองไปว่าให้เด็กหายดีก่อนแล้วค่อยมาเรียน มียายคนนึงแกยืนยันว่าหลานแกหายดีแล้ว แต่เมื่อดูจากอาการเด็กเขาก็ยังมีอาการไอ และยืนยันว่าหลานหายแล้วทำให้เรารู้สึกว่าทำไมถึงไม่อยากดูแลหลานทั้งที่ยังไม่หายดี โอกาสเด็กเล่นด้วยกันมีความเสี่ยงที่ติดต่อ สัมผัส เชื้อโรคเพิ่มขึ้นแน่นอน ครูจึงต้องจำเป็นต้องรับเด็กไว้ในวันนั้นและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เช่น การใช้ของใช้ส่วนตัว การล้างมือบ่อยๆ และการรักษาความสะอาดของห้องเรียน และของใช้ ของเล่น เย็นวันนั้นพ่อเด็กมารับเองได้ถามถึงอาการของลูก ครูจึงบอกว่าเด็กมีอาการไออยู่บ้าง ทางที่ดีควรพาไปหาหมอจะดีกว่าปล่อยไว้ให้เกิดอาการเรื้อรัง ซึ่งนั่นหมายถึงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็กอย่างแน่นอน อาการเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นกับเด็กครูและผู้ปกครองควรใส่ใจและร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดกับตัวเด็กต่อไป
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2558
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2558
ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาจันทน์หอม วันแรกของสัปดาห์ที่3 ซึ่งเราผู้ทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้ดูแลเด็กจะต้องคิดและวางแผน วิธีการต่างๆแต่ละวันเพื่อส่งเสริมเสริมสร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้กับเด็กๆแต่ละครอบครัวก็มีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป บอกได้เลยหินพอสมควรสำหรับเทอมนี้ มีบ้างที่ต้องกระจองอแงบ้างเป็นธรรมดาของเด็กที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่และบุคคลในครอบครัว วันนี้เด็กๆส่วนใหญ่ไม่ร้องไห้แล้วผู้ปกครองเล่าว่าอยากแต่งตัวมาโรงเรียนแต่เช้ามาโรงเรียนด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่ม อยากมาเล่นกับเพื่อนๆคงเหลือแต่"น้องใบหม่อน"คนเดียว
สาเหตุที่น้องใบหม่อนไม่ยอมไปโรงเรียน น่าจะเกิดจากการที่เด็กกลัวที่ต้องแยกจากแม่ไป ไม่อยากร่วมกิจกรรมใดๆ หรือเข้ากลุ่มเล่นกับเพื่อน วิตกกังวลง่ายหรือได้รับการเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของครูที่จะต้องให้ความใกล้ชิดกับเด็กให้มากขึ้น ได้พูดคุยและแนะนำกับผู้ปกครองแล้วให้ส่งเสริมให้เขามาบ่อยๆจะได้คุ้นเคยกับครูและเพื่อนๆให้การเสริมแรงในการมาโรงเรียน การรับคำว่าจะมารับตามเวลา ทั้งนี้ครูกับผู้ปกครองต้องร่วมมือกัน ฝึกให้เขาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างเขาจะได้เกิดความภูมิใจในตัวเอง ทราบดีว่าทุกคนย่อมรักลูกแต่ก็ควรรักลูกให้ถูกทางไม่อย่างนั้นก็จะเป็นรักแบบ"พ่อแม่รักแกฉัน"
ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาจันทน์หอม วันแรกของสัปดาห์ที่3 ซึ่งเราผู้ทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้ดูแลเด็กจะต้องคิดและวางแผน วิธีการต่างๆแต่ละวันเพื่อส่งเสริมเสริมสร้างพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้กับเด็กๆแต่ละครอบครัวก็มีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไป บอกได้เลยหินพอสมควรสำหรับเทอมนี้ มีบ้างที่ต้องกระจองอแงบ้างเป็นธรรมดาของเด็กที่ต้องอยู่ห่างจากพ่อแม่และบุคคลในครอบครัว วันนี้เด็กๆส่วนใหญ่ไม่ร้องไห้แล้วผู้ปกครองเล่าว่าอยากแต่งตัวมาโรงเรียนแต่เช้ามาโรงเรียนด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่ม อยากมาเล่นกับเพื่อนๆคงเหลือแต่"น้องใบหม่อน"คนเดียว
สาเหตุที่น้องใบหม่อนไม่ยอมไปโรงเรียน น่าจะเกิดจากการที่เด็กกลัวที่ต้องแยกจากแม่ไป ไม่อยากร่วมกิจกรรมใดๆ หรือเข้ากลุ่มเล่นกับเพื่อน วิตกกังวลง่ายหรือได้รับการเลี้ยงดูแบบปกป้องมากเกินไป ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของครูที่จะต้องให้ความใกล้ชิดกับเด็กให้มากขึ้น ได้พูดคุยและแนะนำกับผู้ปกครองแล้วให้ส่งเสริมให้เขามาบ่อยๆจะได้คุ้นเคยกับครูและเพื่อนๆให้การเสริมแรงในการมาโรงเรียน การรับคำว่าจะมารับตามเวลา ทั้งนี้ครูกับผู้ปกครองต้องร่วมมือกัน ฝึกให้เขาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างเขาจะได้เกิดความภูมิใจในตัวเอง ทราบดีว่าทุกคนย่อมรักลูกแต่ก็ควรรักลูกให้ถูกทางไม่อย่างนั้นก็จะเป็นรักแบบ"พ่อแม่รักแกฉัน"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)